สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนศรีสะเกษ ร่วมประชุมเจรจาและเชื่อมโยงการตลาดกระเทียมและหอมหัวใหญ่



         วันที่ 1 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุม 20610 ชั้น 6 กรมการค้าภายใน นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานประชุมเจรจาและเชื่อมโยงตลาดกระเทียมและหอมหัวใหญ่  ระหว่างกลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรผู้ปลูกกระเทียมและหอมหัวใหญ่ ร่วมกับผู้ประกอบการโรงงาน ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง Modern trade และตลาดที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน เพื่อให้ช่วยสนับสนุนการรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร รวมทั้งเป็นการเตรียมการป้องกันและหาแนวทางแก้ไขราคาผลผลิตตกต่ำ



         นายวิชัย โภชนกิจ กล่าวว่าประเทศไทยมีความต้องการบริโภคกระเทียม (แห้ง - ลอน) ประมาณปีละ 150,000 ตัน ในขณะที่มีกระเทียมที่ผลิตได้ในประเทศประมาณ 60,000 ตัน โดย ร้อยละ 50 จะเข้าสู่ตลาดทั่วไปทั่วประเทศและอีกร้อยละ 50 จะเข้าสู่โรงงานแปรรูป และห้าง Modern trade ซึ่งถ้าหากมีการบริหารจัดการร่วมกันจะไม่ทำให้เกิดภาวะกระเทียมล้นตลาด นำไปสู่ภาวะราคาตกต่ำ โดยในปีนี้กรมการค้าภายในและกรมศุลกากร จะมีการเฝ้าระวัง ตรวจสอบและจับกุมผู้ที่ทำผิดกฏหมาย ลักลอบนำกระเทียมเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกับปีนี้ประเทศจีนมีปัญหาด้านการผลิต น่าจะส่งผลช่วยตรึงราคากระเทียมในประเทศให้อยู่ระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว นายวิชัยกล่าวต่ออีกว่า กระเทียมไทยมีข้อดีคือมีกลิ่นหอมฉุน มีคุณสมบัติไม่แพ้กระเทียมจากชาติใดในโลก แต่มีจุดอ่อนคือกลีบเล็ก ในขณะที่กระเทียมที่มีการนำเข้าจากประเทศจีนจะมีกลีบใหญ่กว่า ในปีนี้เกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่สามารถปลูกกระเทียมสายพันธุ์จากประเทศใต้หวันซึ่งมีกลีบใหญ่ใม่แพ้กระเทียมจากจีน และมีผลผลิตที่พร้อมออกสู่ตลาดประมาณ 6,000 ตัน

         ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ได้แสดงความจำนงค์ในการรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกรรวมประมาณ 3,000 ตัน และมีผู้ประกอบการรายหนึ่งสนใจเจรจากับเกษตรกรที่ปลูกกระเทียมสายพันธุ์ใต้หวันแต่ขอเจรจาในเรื่องของคุณภาพกระเทียม ซึ่งปัญหาหลักคือมีสารเคมีตกค้างในผลผลิตมากเกินไป และเมื่อนำไปผลิตอาหารเพื่อการส่งออก ทำให้มีการปนเปื้อนสารเคมีในอาหารเกินระดับที่ตลาดปลายทางจะยอมรับได้ ทำให้บริษัทต้องเข้มงวดในกระบวนการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบที่จะรับซื้อ ในขณะที่ผู้บริหาร Tops market ยังคงยึดมั่นในเจตนาที่จะช่วยเกษตรกรไทยด้วยการจัดจำหน่ายเฉพาะกระเทียมไทยเท่านั้น

         ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ เลขาธิการสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย และนายบุญรุ้ง สีดำ ตัวแทนสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนศรีสะเกษได้นำเสนอตัวอย่างหอมกระเทียมพันธุ์ไทยที่ปลูกวิถีอินทรีย์จากจังหวัดศรีสะเกษ และกำลังดำเนินกระบวนการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS โดยมีผู้ประกอบการและห้างค้าปลีกคือท็อป มาร์เก็ตและบิ๊กซีสนใจเจรจาในรายละเอียดต่อไป จากเวทีประชุมครั้งนี้ทำให้ทราบว่าช่องทางการตลาดสำหรับหอมและกระเทียมอินทรีย์ยังมีอนาคตสดใส และหากเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและควบคุมต้นทุนการผลิต และมีราคาไม่ต่างจากกระเทียมที่ไม่ปลูกวิถีอินทรีย์มากเกินไป จะไม่ปัญหาด้านการตลาดเลย




//รายงานโดย ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ เลขาธิการสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย

#สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนศรีสะเกษ